HOTS
latest

728x90

468x60

Japan

Autumn/block-2
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ kanto แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ kanto แสดงบทความทั้งหมด

" ร้าน สบาย สบาย" ร้านอาหารไทยเปิดใหม่แถวสถานี Kanda

พาไปร้านอาหารไทยเปิดใหม่ย่านสถานีรถไฟ kanda "ชื่อร้าน สบาย สบาย" 😄 
รอบนี้ไปญี่ปุ่นพักแถวสถานี Kanda เดินผ่านไปผ่านมาร้านนี้เห็นตั้งแต่ทำร้านเลย เล็งไว้แล้วว่าต้องมาชิม ✨ร้านเพิ่งเปิดไปเมื่อวันที่ 8 เม.ย. ที่ผ่านมาครับ ชื่อร้านชื่อเดียวกับ website เราเลย 😁
ร้านตกแต่งแบบไทยๆเหมือนบ้านเราครับ มีเจ้าของและเเม่ครัวเป็นคนไทย ผมไปชิมมาบังเอิญได้เจอเจ้าของร้านพอดี ได้คุยกันนิดนึงเจ้าชองร้านบอกร้านนี้เปิดใหม่ แต่ก็เป็นสาขาร้านที่ 5 แล้วนะจ๊ะ ไม่ธรรมดา ตอนแรกผมตั้งใจว่าจะมาแต่วันแรกที่เปิด เดินผ่านเห็นคนแน่นร้านเลยจ้า 55 
หลังจากได้มานั่งที่ร้าน บรรยากาศร้านเป็นแบบสบายๆ คนญี่ปุ่นนั่งทานกันไปคุยกันไปเพลินๆ ใครพูดไทยได้ก็จะโชว์พูดคุยเล่นกัน และโชว์สั่งอาหารเป็นภาษาไทยกันคุยเล่นกันสนุกสนาน
 คือนั่งทานไปดูไปก็คิดว่านี่มันสไตล์ร้านอิซากายะแต่เป็นอาหารไทยชัดๆ 
ด้วยบรรยากาศดีทริปนี้แวะไปร้านนี้มา 2 ครั้งจ้า
🍛 ที่ร้าน สบาย สบายมีกับข้าวให้เลือกหลายอย่างหลายราคาไม่แพง สั่งเป็นกับข้าวมีราคา 530/630/680เยน (มีเมนูในอัลบั้ม)​ อย่างข้าวกระเพราะไ่ก่ไข่ดาวจานละ 680 เยน

**ถ้าเป็นช่วงมื้อกลางวันราคานี้จะมาเป็นset สุดคุ้มราคาประหยัด สั่งเพิ่มข้าวพิเศษได้ไม่คิดเงินเพิ่มด้วย 

😄แอดไปกินมาสั่งกระเพราไข่ดาวกับต้มยำกุ้งมา รสชาติแบบไทยๆโอเคเลย ไม่เผ็ดจัดกำลังดี รสชาติอร่อยกลมกล่อม กินแล้วหายคิดถึงกับข้าวบ้านเราได้เลย ‼️ช่วงนี้เปิดร้านมีโปรลด 10% ด้วย ใครกำลังคิดถึงอาหารไทยไปจัดเลยคร๊าบบ สามารถสั่งเผ็ดแบบสไตล์คนไทยได้ด้วยเน้อ

🕙ร้านเปิด
- มื้อเที่ยง 11:00-15:00 last order 14:30
- มื้อเย็น   17:30-23:30 last order 22:45

🚇การเดินทาง
นั่งรถไฟมาลงที่สถานีื Kanda >> ออกทางออก east exit ข้ามถนน เดินเข้าซอยข้างfamily mart เดินนิดเดียวเจอเลยครับ

📍พิกัด https://maps.app.goo.gl/Y1SR1

#ร้านอาหารไทยในญี่ปุ่น
#Kandastation #Tokyo
#SabaiSabaiJapan

🎌ติดตามผลงาน ข้อมูลอัพเดท ภาพและสถานที่เที่ยวสวยๆได้ที่
📳 FB Sabai Sabai Japan : www.facebook.com/sabaisabaijapan
🖱Website : www.SabaiSabaiJapan.com
☎️ Email : SabaiSabaiJapan@Gmail.com

เที่ยวตามใจ @ Aichi – Shizuoka


" เที่ยวตามใจใน Aichi – Shizuoka " รีวิวนี้จะพาเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ จาก จ.ไอจิ ถึง จ.ชิซึโอกะ 
ที่เป็นที่ตั้งของภูเขาไฟฟูจิ มีชาเขียวเป็นของขึ้นชื่อ ธรรมชาติที่สวยงาม และครั้งนี้เราใช้พาสเที่ยวราคาประหยัด 4,500 เยนเอง ได้ไปสถานที่สวยๆ ของกินอร่อย แถมประหยัดงบอีก ได้ฟังสรรพคุณแล้วน่าไปมากๆ อย่ารอช้าเริ่มออกเดินทางกันเลยย!!

Day 1 วันแรก
 ทริปนี้เราเริ่มออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบินไทย ไฟลท์ TG644 บินตรงสู่นาโกย่าหรือสนามบินท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์นั่นเอง ไฟลท์นี้ออกจากเมืองไทยตอนกลางคืนบินถึงญี่ปุ่นตอนเช้าพอดีเที่ยวต่อได้เลย
😁หลับเพลินๆตื่นมาถึงสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ตรงเวลา 07:30 ผ่าน ตม.รับกระเป๋า ออกมาเดินไปที่ Central Japan Travel Center เพื่อแลก JR PASS " Mt.Fuji Shizuoka Area Tourist Pass Mini " พาสเที่ยวรอบๆฟูจิราคา 4,500 เยน ประมาณพันสองนิดๆ ใช้ได้ 3 วันต่อเนื่อง สามารถใช้นั่งรถไฟของ JR ได้ไม่จำกัดตลอดเส้นทางที่กำหนด (ยกเว้นชินคันเซน)  ใช้รถประจำทางเดินทางรอบๆบริเวณโดยไม่จำกัด และใช้บริการเส้นทางเรือเฟอร์รี่ที่มองเห็นภูเขาไฟฟูจิจากอ่าว Suruga ได้ด้วยนะ

พาสเริ่มใช้ได้จากสถานี Toyohashi จากสนามบินนั่งรถไฟ ของMeitetsu ไปลงที่สถานี Toyohashi ประมาณ 80 นาที ราคา 1,990 เยน แบบจองที่นั่ง ถ้าไม่จองราคา 1,630 เยน



- TUBE Sq  
ที่แรกแวะอาบน้ำล้างหน้าล้างตาแต่งตัวให้พร้อมลุยเที่ยวต่อ หรือจะนอนพักสักงีบก่อนได้ที่ TUBE Sq 
อยู่ชั้น 1 ในสนามบินชูบุเซ็นแทรร์เลย อาบน้ำ 1 ชม. ราคา 900 เยน และให้บริการห้องแคปซูลติดตั้งเครื่องปรับอากาศ คืนละ 4,300 เยน หรือคิดเป็นชม.ก็มีนะ มีแผนกต้อนรับซึ่งเปิดตลอด 24 ชม. https://tubesq.jp/en/
- Flight Of Dreams
ชมเครื่องบิน Boeing 787 Dreamliner ลำจริงใกล้ๆที่สนามบินชูบุเซ็นแทรร์ พร้อมชมการแสดงแสง เสียง ที่ออกแบบโดย TeamLab การันตีความสวยงามอลังการแน่นอน และยังมีกิจกรรมเจ๋งๆให้เล่นกันอีก ไปลุยกันอยู่บริเวณ Flight park ของสนามบิน เดินตรงเลยมาด้านหลัง Infomation ด้านหน้าสถานีรถไฟสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ เลี้ยวขวายืนบนบันไดเลื่อนไปเรื่อยๆจนสุดทาง ก็จะเจอทางเข้า Flight of dreams
ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 1,200 เยน / เด็ก 3-6 ขวบ 800 เยน / ต่ำกว่า 3 ขวบ เข้าฟรี 
สามารถจองล่วงหน้าผ่าน Website :  https://flightofdreams.jp/en/ticket/ หรือซื้อด้านหน้าทางเข้าได้

- Gamagori Orange Park
มาเก็บสตรอว์เบอร์รี่แบบไม่จำกัดเวลาที่ Gamagori Orange Park (กามาโกริออเร้นจ์ปาร์ค)” ตั้งอยู่ในเมืองกามาโกริของจังหวัดไอจิ อย่าเพิ่งงง ว่าชื่อสวนส้มทำไมมีสตรอว์เบอร์รี เพราะที่นี่ มีผลไม้ 4 ชนิดหมุนเวียนให้เก็บได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นสตรอว์เบอร์รี, เมล่อน องุ่น และส้มมิคัง เป็นส้มพันธุ์ขี้นชื่อของที่นี่คร๊าบ
👉  ช่วงที่ปเก็บสตรอว์เบอร์รี เดือน ม.ค - พ.ค.
หน้าร้อนจะเป็นเมล่อนกับองุ่นเดือน มิ.ย. - ก.ย.
ใครอยากเก็บส้มมาช่วงประมาณ ต.ค.- ธ.ค.
ราคาจะเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาของฤดูกาล
เดือน ม.ค.
ผู้ใหญ่ 1,944 เยน เด็กโต 1,836 เยน เด็กเล็ก 1,296 เยน
เดือน ก.พ.
ผู้ใหญ่ 1,836 เยน เด็กโต 1,728 เยน เด็กเล็ก 1,188 เยน
เดือน มี.ค.
ผู้ใหญ่ 1,728 เยน เด็กโต 1,620 เยน เด็กเล็ก 1,080 เยน
เดือน เม.ย.
ผู้ใหญ่ 1,296 เยน เด็กโต 1,188 เยน เด็กเล็ก 756 เยน
🕙เวลา เปิด-ปิด : 09.00- 17.00
🕙เก็บได้ตั้งแต่เวลา 9.00 น. ถึง 16.45 น.

📢ก่อนไปเก็บต้องจองล่วงหน้าก่อนนะครับ
Link จอง : http://bit.ly/2L0SGov
เปิดด้วย Google chrome แล้วกดแปลเป็น Eng
เลือกวันที่ว่างสามารถจองได้ จะเป็นสัญลักษณ์ วงกลม (o)
คลิกที่ (o) เลือกเวลา และกรอก reservation from 


🚆การเดินทาง
จาก Nagoya Station นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Gamagori สวนส้มจะอยู่ห่างจากสถานีรถไฟราว 4 กม. จากสถานีสามารถปั่นจักรยานฟรี(มีจำนวนจำกัด) หรือนั่งแท๊กซี่ราคาประมาณ 1,000-1,500 เยน
Website : http://www.orepa.jp/


น้ำส้มมิคังสดๆ
อ่าว Mikawa & Seaside Literary Memorial Museum 
เดินชมวิวชิลๆที่ริมอ่าว Mikawa ตรงนี้มีสะพานเดินข้ามไปยังเกาะทาเคชิมะ เป็นเกาะเล็กๆที่สวยงาม ข้ามไปสักการะศาลเจ้า Yaotomi Jinja ซึ่งตั้งอยู่ด้านบนของเกาะ โด่งดังในเรื่องของการขอพรเรื่องความรักและคลอดลูกอย่างปลอดภัย ที่นี่ได้ถูกกำหนดให้เป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติแห่งชาติ
ที่อ่าว Mikawa มีสถานที่น่าสนใจ Seaside Literary Memorial Museum อนุสรณ์วรรณกรรมทางทะเล บ้านทรงยุโรปโบราณนี้เป็นอนุสรณ์อุทิศให้กับผู้เขียน Yasunari Kawabata ผู้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม Kiichiro Hirano ผู้ได้รับรางวัล Akutagawa Prize และ Masamitsu Miyagitani จากเมือง Gamagori ผู้ชนะรางวัล Naoki ด้านในอนุสรณ์มีของเก่าของสะสมและผลงานให้ได้ชม และสามารถนั่งจิบชาเขียวชมวิวดื่มด่ำบรรยากาศได้เพลินๆ

Laguna Ten Bosch
ที่สุดท้ายของวันนี้เราไปปลดปล่อยความสนุกกันที่ Laguna Ten Bosch เป็นสวนสนุกในธีมท้องทะเลอยู่ใน จ.ไอจิ ที่รวมความสนุกหลายอย่างไว้ด้วยกัน มีทั้งสระน้ำ สวนดอกไม้ เครื่องเล่น ร้านอาหาร ที่พัก และกิจกรรมสนุกๆอีกมากมาย ในช่วงฤดูหนาว ในช่วงเย็นมีการประดับไฟและการฉายแสงภาพสามมิติ 360 องศา สวยงามมากๆ มีการประดับไฟเต็มพื้นที่ และมีการแสดง illumination พร้อมน้ำพุอลังการสวยมากๆ งานประดับไฟจะมีถึงวันที่ 31 มี.ค. 2019 นี้ และในช่วงฤดูร้อนมีการจุดพลุด้วยนะ เรียกได้ว่าที่นี่มีกิจกรรมอีเวนท์หมุนเวียนจัดตลอดทั้งปีเลย ห้ามพลาดๆ
🎉ตั๋วเข้ามี 2 แบบ
แบบที่ 1 : Admission Ticket ใช้เข้าชมภายในสวนสนุก และงานอีเว้นท์ต่าง ๆ ไม่สามารถเล่นเครื่องเล่นใด ๆ ภายในได้
ราคา ผู้ใหญ่ 2,150 เยน (อายุ 12 ปีขึ้นไป)
เด็กโต 1,200 เยน (อายุ 6-11ปี)
เด็กเล็ก 700 เยน (อายุ3-5 ปี)
แบบที่ 2 : Passport สามารถใช้เข้าชมสวนสนุกและเล่นเครื่องเล่นได้ไม่จำกัด
ราคา ผู้ใหญ่ 4,100 เยน (อายุ 12 ปีขึ้นไป)
เด็กโต 3,000 เยน (อายุ 6-11ปี)
เด็กเล็ก 2,250 เยน (อายุ3-5 ปี)

🕙เวลา เปิด - ปิด เปลี่ยนตามฤดูการ สามารถเช็คได้ใน Website “Laguna Ten Bosch” : https://bit.ly/2El7Le0
🌜วันนี้เราพักที่ Miya onsen Shofuen, Gamagori
เป็นที่พักเรียวกังอยู่ติดริมทะเลเลย ที่นี่มีบ่อแช่ออนเซนกลางแจ้งเลียบทะเลเลย นั่งแช่ออนเซนชมวิวทะเลและพระอาทิตย์ตกได้สวยๆ 
Website : Miya onsen Shofuen, Gamagori


Day 2
Hamanako Lake
วันนี้เราออกแต่เช้าไปยังเมืองฮามามัตสึเพื่อใช้พาสต่อรถบัสไปยังทะเลสาบฮามานาโกะ (Lake Hamanako) เดี๋ยวเราจะไปล่องเรือชมวิวและกินข้าวกัน ลงรถบัสไปที่ “ท่าเรือคันซันจิ”เป็นท่าเรือที่อยู่ติดกับ “Hamamatsu Flower Park ”  ขึ้นเรือเฟอรรี่ชมวิวทะเลสาปเพื่อไปทานมื้อเที่ยงกัน ระหว่างนั่งเรือมีฝูงนกนางนวลมาคอยต้อนรับ เราสามารถให้อาหารนกกับมือได้เลยนะ นกชอบขนมฮานามิแหละ
นั่งเรือชมวิวมาเรื่อยๆสักพักก็ถึงท่าเรือ เราลงมาเพื่อไปทานมื้อเที่ยงกันที่ร้าน Kanzanjien มีเมูนูอาหารที่ใช้วัตถุดิบจากในทะเลสาป อย่างหอยนางรมและปลาไหลที่เป็นของอร่อยขึ้นชื่อของที่นี่ และแถวนี้มีโรงแรมเรียวกังให้บริการอยู่รอบๆ หรือจะแวะแช่ออนเซนตอนกลางวัน 1day trip ก็ทำได้
Hamamatsu Flower Park
ทานมื้อเที่ยงอิ่มแล้วมาต่อกันที่สวนดอกไม้  Hamamatsu Flower Park เป็นสวนที่ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นสวนซากุระและดอกทิวลิปที่ขึ้นชื่อว่างดงามติดอันโลก ด้วยพื้นที่ที่กว้างขนาด30,000 ตารางเมตร มีดอกไม้นานาพันธุ์และต้นไม้ต่างๆมากถึง 3,000 ชนิด ยิ่งช่วงซากุระกับทิวลิปผลิบานเต็มทุ่งนี่สวยมากๆ และมีไอติมกุหลาบที่เป็นซิกเนอเจอร์ของที่นี่แวะไปลองชิมได้คร๊าบ 
Website : Hamamatsu Flower Park

Day3 

Hamamatsu Castle
ปราสาทฮามะมัตสึ ที่นี่เป็นปราสาทที่โชกุนองค์แรกของสมัยเอโดะ Ieyasu Tokugawa อาศัยอยู่เป็นเวลา17 ปี ตั้งแต่มีอายุ 29-45 ปี ปราสาทฮามะมัตสึมีชื่อเสียงในเรื่องของกำแพงหิน ซึ่งสร้างขึ้นในรูปแบบของNomenzumi หมายถึงกำแพงหินที่ยังเหลืออยู่จากที่เคยมี พูดกันว่าถ้านักท่องเที่ยวพบหินรูปหัวใจในกำแพงหิน จะทำให้โชคดี ❤

Shointei, the Hamamatsu Teahouse
จากปราสาทฮามะมัตสึเดินมาที่ Shointei, the Hamamatsu Teahouse ที่นี่เราจะได้เข้าร่วมชมพิธีชงชาแบบดั้งเดิมอย่างใกล้ชิด และได้ชิมชาเขียวที่เป็นของดีของขึ้นชื่อที่นี่กัน จากภายในห้องชงชามองออกมาชมวิวสวนญี่ปุ่นสวยงามที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล

Kakegawa Kachouen
"สวนนกคาเคกาว่า" สวนนกที่รวบรวมนกหลากหลายชนิด และสวนดอกไม้จากทั่วโลกกว่า 700 พันธุ์ตามฤดูกาล เราสามารถสัมผัสและถ่ายรูปกับนกต่างๆ เดินชมกันแบบใกล้ชิดมาก นกบินอยู่รอบๆเลยและให้อาหารนกจากมือได้ด้วย มีช่วงการแสดงโชว์ที่เรียกว่า Bird show การบินของนกเหยี่ยว และนกฮูกแสนรู้แบบใกล้ชิด ตอนซื้อบัตรเข้าจะมีคูปองนำไปแลกผลไม้ให้นกได้
Sawayaka 
ร้านแฮมเบิร์กประจำเมืองที่มีสาขาเฉพาะใน Shizuoka เท่านั้น เป็นร้านที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รักของชาวชิสุโอกะเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าไปทีไรคิวยาวตลอดแต่ได้ชิมแล้วอร่อยจริงๆ  เมนูแนะนำ “Genkotsu Hamburg” ขนาด 250 กรัม ราคา 1,000 เยนนิดๆ จะเสริฟมาเป็นก้อนแล้วพนักงานจะตัดเนื้อละบีบลงไปในจานกะทะร้อนๆที่เสริฟมาเสียงฉู่ฉ่าน่ากินมากๆ ได้ชิมตัวเนื้อแฮมเบิร์กกินได้เรื่อยๆเลยไม่เลี่ยนคู่กับเครื่องเคียงอิ่มอร่อยเข้ากันสุดๆ

Maruzen Tea Roastery
คาเฟ่ร้านชาในรูปแบบสมัยใหม่เพื่อดึงดูดให้คนรุ่นใหม่หันมาดื่มชา ด้วยกรรมวิธีการผลิตคั่วใบชาด้วยอุณหภูมิที่แตกต่างกันเพื่อให้ไดชารสชาติต่างๆกันไปตั้งแต่อุณหภูมิ 0℃ ไปจนถึง 200℃ และแปลรูปมาเป็นไอศครีมเจลาโต้ เราสามารถเลือกชิมชารสชาติต่างๆตามความเข้มจากอุณหภูมิที่ใช้คั่วใบชา ที่ให้กลิ่นหอมของชาต่างกันไปลองหลายๆแบบก็อร่อยดี ทั้งรูปแบบร้านสวย การนำเสนอชาเรียกว่าดีงามเป็นสไตล์มาก ชั้น 2 มีที่นั่งชิลๆเป็นอีกร้านที่อยากให้แวะไปลองกันครับ
พิกัด : https://goo.gl/maps/sehp9PuAnDT2

🌜ที่พัก Katsuragawa Ryokan
วันนี้เราจะไปพักกันที่ซูเซนจิออนเซน(Shuzenji Onsen) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สายออนเซนห้ามพลาด!! จากเมือง Shizuoka ใช้พาสนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Shuzenji และต่อรถบัสเบอร์ 10 ที่ป้ายหมายเลข 1 ไปยังที่พัก Katsuragawa Ryokan โรงแรมใหญ่ ห้องพักกว้างดูดี และมีออนเซ็นแบบ outdoor ให้เราไปนั่งแช่ชมดาวกันฟินๆด้วย คืนนี้อิ่มอร่อย แช่ออนเซนผ่อนคลายพักผ่อนหลังจากเดินทางมา



Day4

MaChi Nabi Yururi ใส่ชุดกิโมโนชมเมืองออนเซน
วันนี้ตอนเช้าเราจะเที่ยวในเมือง ซูเซนจิออนเซน (Shuzenji Onsen) เป็นหนึ่งในเมืองน้ำพุร้อนที่เก่าแก่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดของแถวนี้เลย ที่นี่มีบริการเช่าชุดกิโมโน่ ใครมาที่นี่แล้วอยากเช่าชุดเดินถ่ายรูปในเมืองสวยๆที่นี่เลยครับ
Shuzenji Temple
วัดเก่าแก่ประจำเมืองนี้ได้รับการก่อตั้งโดย Kobo Daishi หนึ่งในบุคคลสำคัญทางศาสนาที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่นก่อตั้งวัดเมื่อประมาณ 1,200 ปีก่อน ในศตวรรษที่ 9 และได้รับการกล่าวขานว่าค้นพบน้ำพุร้อนที่โดดเด่นที่สุดของเมือง Shuzenji คือ Tokko-no-yu ซึ่งตั้งอยู่กลางเตียงแม่น้ำที่ไหลผ่านใจกลางเมือง  
น้ำพุร้อนที่โดดเด่นที่สุดของเมือง Shuzenji คือ Tokko-no-yu ตั้งอยู่กลางเตียงแม่น้ำที่ไหลผ่าน
มีบ่อแช่ออนเซนเท้าให้เราได้นั่งแช่คลายเมื่อยชมวิว
Mishima Skywalk
สะพานแขวนคนข้ามทอดข้ามหุบเขาที่มีความยาวถึง 400 เมตร เป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น กับวิว 360° ท่ามป่าเขาและภูเขาไฟฟูจิอันงดงาม หากวันไหนโชคดีไปแล้วเจออากาศดี ท้องฟ้าปลอดโปร่งเตรียมถ่ายรูปรัวๆได้เลย เราจะสามารถมองเห็นภูเขาฟูจิอย่างชัดเจน และสามารถมองเห็นมองเห็นอ่าวซูรุกะ ทะเลที่ลึกที่สุดของญี่ปุ่น และชมความงดงามของขุนเขาภูเขาอิซู ที่เรียงรายสลับซับซ้อนกันอย่างสวยงาม 
Izu Fruit Park
สวนผลไม้อิซุ (Izu fruit Park) ตั้งอยู่ในเมืองมิชิมะใกล้ๆกับสะพานแขวน Mishima Skywalkเราสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมเก็บผลไม้ได้ตลอดทั้งปีไม่ว่าจะเป็นสตรอว์เบอร์รี ส้ม และเมล่อน กิจกรรมเก็บสตรอว์เบอร์รีจะเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป ช่วงเวลาเริ่มกิจกรรมจะแตกต่างกันไปตามแต่ละปี ว่ากันว่าสตรอว์เบอร์รีที่เก็บเกี่ยวครั้งแรกสุดของปีจะมีรสชาติอร่อยที่สุด แนะนำให้รีบแวะมาเก็บกันตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นจะดีที่สุดครับ และมีกิจกรรมสนุกๆให้เราได้ตักสตอร์เบอร์รี่ไม่จำกัดใส่ลงถ้วยที่ใส่วิปครีมมาให้้ในราคา 580 เยน ด้วยครับ และมีของฝากหลายอย่างเลย แนะนำข้าวเกรียบอร่อยๆ
Kinomiya Jinjya Kinomiya Shrine
ศาลเจ้าคิโนมิยะ(Kinomiya Shrine) มีต้นการบูรยักษ์เก่าแก่ที่มีอายุมากกว่าพันปี มีลำต้นส่วนที่ใหญ่ที่สุดขนาด 14 เมตร และสูง 24 เมตร และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในสมบัติทางธรรมาชาติของประเทศญี่ปุ่น มีความเชื่อกันมาแต่โบราณว่าเป็นที่ประทับของเทพแห่งความสุขและโชคชะตา ต้นโอคุสึถือว่าเป็นที่ขอพร “ให้มีอายุมั่นขวัญยืน” “ขอให้ความปรารถนาเป็นจริง” แต่ก็ยังมีผู้คนจำนวนมากที่มาเพขอพรด้านความรักอีกด้วย นอกจากนี้ ก็ยังเชื่อว่าเป็นเทพแห่งการ “งดเหล้า” มีผู้คนมากมายมาสักการะเพื่อเลิกเหล้า เลิกบุหรี่ ในปัจจุบัน ต้นไม้เทพโอคุสึถือว่ามีพลังชีวิตที่แข็งแกร่ง จึงมีผู้คนมาขอพรเรื่องสุขภาพเป็นจำนวนมาก และมีร้านกาแฟให้นั่งพักด้วยนะ มีแท่นวางโทรศัพท์ให้ถ่ายรูปได้ด้วยทันสมัยมากๆ

Starbucks Coffee Fujigawa Service Area 
ก่อนเดินทางกลับ 😍ขอบอกเลยว่า ณ จุดนี้ห้ามพลาด!! ผ่านแล้วต้องแวะนั่งจิบกาแฟ มองฟูจิซังไปเพลินๆ ที่ " Starbucks Coffee Fujigawa Service Area " ยิ่งมาตอนช่วงเย็นๆพระอาทิตย์ใกล้ตก ได้นั่งมองแสงอาทิตย์กระทบกับยอดของฟูจิ นี่ฟินสุดๆ 👍
 👉 Starbucks Fujigawa Service Area อยู่ในจุดพักรถ บนเส้นทาง Tomei highway เส้นทางที่ใช้วิ่งระหว่างโตเกียวไปนาโกย่า ส่วนอีกฝากนึงไม่ต้องเสียใจมีชิงช้าสวรรค์ให้นั่งชมฟูจิเหมือนกันคร๊าบ 🗻 แถม Starbucks สาขานี้อยู่ไม่ไกลกับ Fuji world heritage ห่างกันประมาณ 10 กม. จัดแพลนเที่ยววันเดียวกันได้เลยครับ ⛩
🚩พิกัด : https://goo.gl/maps/Eztm8sPBnYt

 1 ทริปชิลๆ เที่ยวตามใจใน Aichi ถึง Shizuoka เที่ยวไปเรื่อยๆไม่รีบร้อน ใช้เวลากับสถานที่แวะชมความสวยงามระหว่างทางเป็นอีกรูทที่น่าสนใจไปเที่ยวได้ทุกฤดู และที่ญี่ปุ่นก็ยังมีสถานที่สวยๆรอเราไปเที่ยวไปค้นหาอีกเยอะเลยครับ

ติดตามและอัพเดทสถานที่สวยๆแวะพูดคุยท่องเที่ยวญี่ปุ่น หรือมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมที่
FB :Sabai Sabai Japan ได้เลยคร๊าบบ 😊😊