กลับมาอีกครั้งกับรีวิวสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ เดินทางไปญี่ปุ่นเหมือนเดิม รอบนี้นั่ง JAL Premium Economy Class
กับไฟลท์เสริมพิเศษของ Japan Airlines JL718
ซึ่งปกติไฟลท์ของ JAL ถึงเช้าจะมีไปลงที่สนามบิน Haneda เท่านั้น ส่วนสนามบิน Narita ไฟลท์ถึงเช้าจะมีแค่ช่วงหน้าหนาว แต่ปีนี้พิเศษ Japan Airlines ขยายเวลาเที่ยวบินนี้ถึงเดือน ต.ค.กันเลยครับ โดยไฟลท์ JL718 นี้ออกจากสุวรรณภูมิเวลา 23:25 น. ไปถึงสนามบินนาริตะ เวลา 07:15 น.
เวลาดีๆถึงปุ๊บเที่ยวต่อได้เลย
ก่อนจะไปอ่านรีวิวกันเพลินๆ ต้องบอกก่อนว่าทริปนี้เกิดจากการที่ไปร่วมกิจกรรมกับ Freetel Thailand และโชคดีมากๆ ได้รางวัลตั๋วเครื่องบินเดินทางไปญี่ปุ่น ต้องขอบคุณ Freetel Thailand มากๆครับ
🎈JAL Premium Economy Class สามารถโหลดกระเป๋าได้ 2 ใบ ใบละไม่เกิน 23 กก. และจะได้เช็คอินแถวพิเศษ แถวเดียวกับ Bussines Class พร้อมแท็กติดกระเป๋าว่า priority นั่นหมายความว่า เมื่อถึงสนามบินปลายทาง กระเป๋าของเราจะออกมาก่อนครับ
🌸และสิทธิพิเศษของการนั่ง JAL Premium Economy Class อีกอย่างหนึ่งที่ดีงามมากๆคือ
สามารถใช้บริการของ Sakura Lounge ได้ด้วย เมื่อเช็คอินโหลดกระเป๋า ผ่านตม.เสร็จแล้ว
ก็ไป Sakura Lounge กันครับ
🌸Sakura Lounge🌸
ของสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ที่สนามบินสุวรรณภูมิ อยู่ที่ชั้น 3 ใกล้ทางออก D8A
เมื่อถึงแล้วเดินเข้าไปด้านใน จะมีพนักงานต้อนรับพร้อมให้บริการอยู่ครับ เรายื่นบอร์ดดิ้งพาสให้กับพนักงานสแกนเรียบร้อย แล้วก็เข้ามาใช้บริการด้านในได้เลยครับ
ภายในตกแต่งเรียบง่ายตามสไตล์ญี่ปุ่น บรรยากาศเงียบๆ
มีที่นั่งเป็นแแบบโซฟาและเคาน์เตอร์จำนวนมาก เพียงพอต่อการเข้าใช้บริการแน่นอนครับ
ทุกที่นั่งจะมีปลั๊กไฟและช่อง USB ไว้ให้บริการด้วย ซึ่งตรงจุดนี้สะดวกสบายมากๆ
อาหารมีให้เลือกทานหลายอย่างทั้งอาหารญี่ปุ่น ไทย ฝรั่ง มาม่าก็มี ของหวานก็มีหลายแบบ
เครื่องดื่มก็มีมาครบครันให้เลือกทานเยอะมาก ชอบแบบไหนเลือกได้เลย...
รอบล่าสุดผมได้ลองทานผัดกระเพราหมู และมีแกงเขียวหวานด้วย
รสไม่จัดมากทานกับข้าวญี่ปุ่นก็อร่อยดีครับ
ใน lounge มีบริการห้องสูบบุหรี่ และห้องอาบน้ำด้วย หากจะใช้บริการlocker
สามารถติดต่อได้ที่เคาท์เตอร์ด้านหน้าครับ
🎈นั่งเพลินๆ กลัวว่าจะลืมเวลาจนตกเครื่อง ใน lounge จะมีตารางบินบอก และมีประกาศบอกเวลาเรียกขึ้นเครื่องในแต่ละไฟลท์
😊
อิ่มท้องแล้ว เราก็เดินไปขึ้นเครื่องกัน ที่นั่งของ JAL Premium Economy Class เป็นที่นั่งแบบ JAL Sky Premium พิเศษด้วยการขยายที่ระยะห่างระหว่างที่นั่งเพิ่มอีก 10 ซม.และพื้นที่สไลด์ของที่นั่งก็เพิ่มอีก 7 ซม. ที่พักขาปรับได้ 3 ระดับ นั่งสบายๆ ไม่อึดอัดเลยครับ
|
เปลี่ยรองเท้าเรียบร้อยย..ที่นั่งกว้างนั่งสบายย |
✨เมื่อมาถึงที่นั่ง ก็จะมีชุดอุปกรณ์วางไว้ให้อย่างครบเซ็ต มีทั้งที่ปิดตา / ปลั๊กอุดหู / ชุดแปรงสีฟัน / ที่มาร์กหน้า / ผ้าห่ม / หูฟัง / รองเท้าสำหรับใส่บนเครื่อง
👉
โดยเฉพาะหูฟัง พิเศษสุดๆด้วยระบบตัดเสียงรบกวนภายนอก ซึ่งหูฟังแบบนี้มีเฉพาะสำหรับบินไปไฟลท์
ลอนดอน, แฟรงก์เฟิร์ต, ปารีส, เฮลซิงกิ, มอสโก, นิวยอร์ก, บอสตัน, ชิคาโก, ลอสแองเจลิส, ซานฟรานซิสโก, แซนดีเอโก, แวนคูเวอร์, ซิดนีย์, จาการ์ตา และเดลี แต่ทำไมไปญี่ปุ่นถึงมี ก็เพราะว่า ทาง JAL ได้นำเครื่องบินรุ่นนี้มาให้บริการเสริมพิเศษ JL718 ในเส้นทางญี่ปุ่น บินไปนาริตะไฟลท์เช้านั่นเอง
|
ชุดอุปกรณ์ในถุงครบเซ็ต |
|
หูฟังระบบตัดเสียงรบกวนของ Sony ชอบ สวย อันนี้ดี !! |
|
เครื่องขึ้นปุ๊บได้ชุดเบาๆมากินก่อนเลย มัฟฟินกล้วยหอมกับขนม กินระหว่างดูหนังไปด้วยเพลินๆ |
มื้อดึกก่อนนอน UDON de SKY อร่อยดีมีเต้าหู้และลูกชิ้นมีลายเครื่องบินเก๋ๆ
และน้ำกีวี่ "Sky Time" เครื่องดื่มเฉพาะของ JAL
เมนูตอนเช้าเป็นไส้กรอก+ออมเลท สลัดปูอัด สลัดผัก โยเกิร์ต ผลไม้ และขนมปัง
✈ขามาเครื่องดีเลย์ออกช้าไป 20 นาที เนื่องจากสภาพอากาศ
แต่ไปถึงที่สนามบินนาริตะ เวลา 07.13 เร็วกว่ากำหนดการนิดหน่อย
ระหว่างการเดินทางลูกเรือดูแลดีมากกครับ เจอปุ๊บจะคอยถามตลอดว่าเป็นอย่างไรบ้าง หลับสบายไหม
อาหารทานได้ไหมและต้องการอะไรเพิ่มบอกได้เลยนะ อันนี้ดีประทับใจครับ บริการกันแบบเรานี่แอบเกรงใจเลย ถ้ามีโอกาสอยากให้ลองใช้บริการดูครับกับ JAL Premium Economy Class
🛫ขากลับ NRT >>> BKK ไฟลท์ JL717
- ไฟลท์ JL717 ออกจากสนามบินนาริตะ เวลา 12:40 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 18:00 น.
ขึ้นเครื่องที่ สนามบินนาริตะ Terminal 2 ช่องเช็คอินเยอะหลายแถวมากก คนเลยไม่เยอะมากรอแป๊บเดียว
- First Class แถว L
- Business Class แถว K
- Economy Class แถว G O P Q
Economy Class สามารถอัพนั่ง
JAL Premium Economy Class ได้จ่ายเพิ่ม 20,000 เยน
*สามารถแวะซื้อสตรอเบอรี่สดๆหรือ UDON de SKY กลับบ้าน
ได้ที่ ร้าน Blue sky shop อยู่ที่ ชั้น 4 และยังมีของฝากอื่นๆให้เลือกเยอะเลยครับ
สตรอเบอรี่สดๆส่งตรงจากฟาร์เลย
UDON de SKY
Kitkat มีหลายรสให้ลองเยอะเลย
....ข๊อปเสร็จแล้ว ผ่าน ตม.มาขึ้นเครื่อง ขากลับนั่ง Economy Class
ที่ที่นั่งจะมีหูฟัง หมอนรองหลังและผ้าห่มวางไว้ให้ครับ ผ้าห่มไม่พอสามารถขอเพิ่มได้
ช่องวางเท้าก็ไม่แคบนะนั่งได้สบายอยู่
อาหารดูแลโดยเชฟ ในโครงการ RED U-35 เมนูที่เลือกขากลับนี้เป็นสุกี้ยากี้เนื้อ พร้อมข้าว และมีสลัด ของเคียงต่างๆ อร่อยครับ รสดีเลย และของหวานเป็นไอศครีม Haagen-Dazs
🛫และขากลับกัปตันบินผ่านให้ชมฟูจิแบบใกล้มากกกกๆ ได้เห็นแบบเต็มๆ
👉อยากเห็นฟูจิ BKK > NRT ให้นั่งฝั่งซ้าย
NRT > BKK นั่งฝั่งขวา
เดินทางกลับถึงเมืองไทยโดยสวัสดิภาพ เคยได้ใช้บริการทั้ง JAL Premium Economy Class และ Economy Class โดยรวมดีทั้ง 2 แบบเลย
โดยเฉพาะการบริการเป็นการให้บริการแบบสไตล์ญี่ปุ่นเลยครับ
ถ้ามีโอากาสจะกลับมาใช้บริการอีก หากใครสนใจสามารถเข้าไปดูได้ที่นี่เลย
และช่วงนี้ทาง JAL มีโปรมาเรื่อยๆนะสามารถติดตามข่าวได้ที่ เพจ Sabai Sabai Japan
เราจะมาคอยอัพเดทแจ้งข่าวให้ครับ
🎌ติดตามผลงาน ข้อมูลอัพเดท ภาพและสถานที่เที่ยวสวยๆได้ที่
☎️ Email : SabaiSabaiJapan@Gmail.com