เดินเล่น ชิมอาหารอร่อยๆ ชมหมู่บ้านในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ไปมาเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 😍
🚃ออกเดินทางจากเมือง Aizuwakamatsu เราเดินทางด้วยรถไฟสาย Aizu railway
ลงที่สถานี Yunokami Onsen ใช้เวลาเดินทาง 39 นาที ค่ารถไฟ 1,030 เยน
...ถ้าเรามาจาก Tokyo นั่งชินคันเซนมาลงที่สถานี Koriyama เปลี่ยนรถไฟ
นั่งรถไฟสาย JR Ban-etsu-Saisen ไปสถานี Aizu-wakamatsu
- การเดินทางแนะนำตั๋วรถไฟราคาประหยัด Ouchijuku pass ราคา 1,900 เยน
หรือ Aizu Gurutto Card ราคาผู้ใหญ่ 2670 เยน เด็ก 1340 เยน
👌รีวิว Aizu Gurutto Card
http://www.sabaisabaijapan.com/2017/08/fukushima-aizu-gurutto-card.html
👍Ouchijuku pass
⭐คุ้มยังไง !! พาสนี้รวมค่ารถไฟไปกลับสถานี AizuWakmatsu - Yunokamionsen
สามารถนั่งไปเที่ยวที่สถานี Tono-hetsuri ที่อยู่ถัดไป 1 สถานีได้ด้วย
และพาสนี้รวมรถบัสไป-กลับ จากสถานี Yunokamionsen ไปยังหมู่บ้าน Ouchi Juku
(ค่ารถบัสไป-กลับ 1,000 เยน) จาก 3,000 เยน เหลือแค่ 1,900 เยน คุ้มมากๆ!!*
🎈จากสถานี AizuWakmatsu เรากดตั๋วจากตู้หน้าสถานี ราคา 190 เยน
(เป็นค่านั่งรถไฟจากสถานี AizuWakmatsu ไป NishiWakamatsu เพราะยังเป็นสถานีของ Jr อยู่ ใครใช้ Jr pass จะใช้ได้แค่สถานีนี้ที่เหลือต้องจ่ายเพิ่ม)
🔺สามารถซื้อได้กับเจ้าหน้าที่บนรถไฟเลย ราคา 1,900 เยน
🔺 ขากลับออกจากสถานี AizuWakmatsu ยื่น pass ให้เจ้าหน้าที่และจ่ายพิ่ม 190 เยน
เพื่อออกจากสถานี
🚃สถานี Yunokami Onsen เป็นสถานีรถไฟเล็กๆที่ซ่อนอยู่กลางหุบเขา ภายในสถานีมีก่อเตาฟืนโบราณไว้พิงไฟแก้หนาวด้วย มีที่นั่งรอรถไฟได้บรรยากาศดีมาก และบริเวณใกล้ๆสถานี มีบ่อแช่ออนเซนเท้าฟรีด้วย ไปเดินเที่ยวเมื่อยๆแวะมาแช่ออนเซนเท้าก่อน ค่อยขึ้นรถไฟกลับดีงามสุดๆ หรือใครจะแวะแช่ก่อนเลยก็ได้
🔺" รีวิว แช่ออนเซนเท้าฟรี!! ที่สถานียูโนกามิ ออนเซ็น "🔺
🔺" รีวิว แช่ออนเซนเท้าฟรี!! ที่สถานียูโนกามิ ออนเซ็น "🔺
http://www.sabaisabaijapan.com/2017/08/yunokami-onsen.html
✔ตารางเวลารถบัสออกจากสถานี Yunokami Onsen เริ่ม 09:00 น.
✔ขากลับรอบสุดท้ายจาก หมู่บ้าน Ouchi-juku 16:51 น.
🚌เมื่อถึงหมู่บ้าน Ouchi-juku รถบัสจะจอดเลยด้านหน้าทางเข้าของหมู่บ้านไปนิดนึง
จะมีทางสามารถเดินเข้าไปด้านในของหมู่บ้านได้
🍁หมู่บ้าน โออุจิ จูคุ (Ouchi Juku)
หมู่บ้านโบราณที่อดีตเคยเป็นเมืองสำคัญในยุคเอโดะถูกสร้างเมื่อหลายร้อยปีก่อน
เป็นบ้านชาวนาญี่ปุ่นโบราณที่มุงหลังคาทรงหญ้าคาหนาๆเรียงรายกันสองฝั่งกินระยะทางประมาณ 500 เมตร โดยรวมมีบ้านโบราณประมาณ 40 – 50 หลัง
ในสมัยเอโดะ หมู่บ้านโบราณ โออุจิ จูคุ เป็นเสมือนแหล่งที่พัก
ตั้งอยู่ขนาบข้างของถนนหลักชื่อว่าถนนชิโมสึเคะ (Shimotsuke)
ถนนเส้นนี้เคยใช้เป็นเส้นทางหลักในการคมนาคมและการค้า เชื่อมต่อระหว่างเมืองไอสึ และเมืองอิไมชิ (Imaichi จังหวัด Tochigi)
หมู่บ้าน โออุจิ จูคุแห่งนี้นับเป็นหนึ่งในเมืองที่เหล่านักเดินทางนิยมมาพักแรมในระหว่างการเดินทางทั้งโชกุนรวมทั้งขุนนางและพ่อค้าเนื่องจากที่นี่มีทั้งอาหารและแหล่งที่พักครบครัน 🍁🍁
เดินเข้ามาในหมู่บ้านเจอร้านขายของที่ระลึก ร้านค้าขายสินค้าพื้นเมือง
ร้านอาหารแและร้านขนมต่างๆให้เราได้แวะชม แวะชิมกันเพลินๆตลอดทาง
2 ข้างฝั่งถนน จะมีลำธารน้ำเล็กๆไหลผ่าน
ชาวบ้านจะนำน้ำดื่มและผักไปแช่เป็นตู้เย็นแบบธรรมชาติแทนการใช้ตู้เย็น
⭐จุดไฮไลท์ห้ามพลาดของที่นี่คือจุดชมวิวมุมสูงด้านหลังของหมู่บ้าน
จากด้านหน้าทางเข้า เดินชมหมู่บ้านและร้านค้ามาจนถึงด้านในสุด
เจอกับบันไดจะมี 2 ด้านให้เลือกชันมากแต่ใกล้หน่อยกับชันน้อยๆเดินชิลๆ
เลือกเดินขึ้นได้ตามเหมาะสม😁
วิวจากจุดชมวิว สวยได้เห็นวิวหมู่บ้านทั้งหมดเลย และทิวเขาด้านหลังใบไม้ปลี่ยนสีสวยๆ
🍜
🍜เมนูแนะนำของที่นี่คือ เนหงิ โซบะ เป็นโซบะต้นหอม เวลารับประทานจะใช้ต้นหอมยักษ์แทนตะเกียบคีบเส้นขึ้นมากินไปพร้อมกันเลยทำให้ได้รสชาติไปอีกแบบ
🍙สำหรับถ้าใครไม่ชอบทานต้นหอม วันนี้ผมพามาทานมื้อเที่ยงกันที่ร้าน Asanuma cafeteria
ร้านนี้เมนูขึ้นชื่อคือปลา Iwana ย่างสดๆ กับเมนูที่ทำจากเส้นโซบะทำมือ
ร้านนี้หาง่ายมากเป็นร้านที่อยู่สุดทางก่อนขึ้นไปจุดชมวิวหลังหมู่บ้านนี่เอง
🚩พิกัด : https://goo.gl/maps/7yF5vn4WHsC2
เราไปชิมข้าวเซ็ทปลา Iwana ย่าง ของอร่อยอีกอย่างของที่นี่กันครับ
🐟ข้าวเซ็ทปลา Iwana ย่าง ราคา 1,200 เยน มาพร้อมกับปลา Iwana ย่างร้อนๆ
เห็ดและหน่อไม้ที่เป็นผักท้องถิ่น พร้อมซุปมิโสะและข้าวถ้วยใหญ่ 1 ถ้วย
ปลาสามารถกินได้ทั้งตัวเลย!! อร่อยมากกกก หนังกรอบ เนื้อหวาน !!
และจุดเด่นของร้านนี้อีกอย่างคือวิว เราจะได้นังกินข้าวพร้อมกับชมวิวหมู่บ้านไปพร้อมๆกัน
🍁ทานข้าวอิ่มแล้ว...ออกเดินชมวิวสำรวจหมู่บ้านกันต่อ ระหว่างรอเวลารถกลับ
มีร้านอาหารและขนมหลายร้านเลย มีค่าเฟ่ต่างๆให้เราได้เลือกนั่งชิลๆ
หรือจะเดินไปที่วัด Takakura ทางเข้าที่มีเสาโทริอิอยู่กลางทางเดินในหมู่บ้าน
✌ขากลับเดินมาขึ้นรถบัส ป้ายจุดขึ้นรถกลับจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับขามา
ได้มีโอกาสมาที่นี่ 2 ครั้งแล้วในช่วงฤดูร้อน กับฤดูหิมะช่วงงาน Snow fest
แต่ละครั้งที่มาที่นี่ก็สวย มีเสน่ห์แตกต่างกันไปตามแต่ฤดูกาล
มีโอกาสอย่าลืมใสที่นี่ไว้ในแผนด้วยน๊า..😊
